ประสบการณ์การใช้ชีวิตใน ลอนดอน เมืองที่มีอะไรเยอะแยะไปหมด และอังกฤษก็ไม่ได้มีแค่ลอนดอนนะ
วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561
วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2561
วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2561
อารัมภบท 3
อารัมภบท
2
การได้มาพำนักอาศัยในลอนดอน
ประเทศอังกฤษนี้ เป็นการเดินทางออกนอกประเทศไทยครั้งแรกของผม และเป็นการเปิดประสบการณ์ชีวิตอีกครั้งหนึ่งของผมเลยทีเดียว
หากแฟนผมไม่ได้ขอทุนมาเรียนต่อ และหากเจ้าของทุนไม่อนุมัติทุนให้
ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสมาลอนดอนหรือเปล่า
ถ้าโชคดีหน่อยก็อาจจะเก็บเงินมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต
แต่พอแฟนผมได้ทุนมาเรียนก็เป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตในที่ที่ไม่คุ้นเคย
ในที่ที่มีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างจากเมืองไทยที่ผมอยู่มาทั้งชีวิต
บางสิ่งผมก็คิดว่าเมืองไทยยังดีไม่เท่าที่นี่
แต่บางอย่างผมก็คิดว่าประเทศไทยเราดีกว่าเยอะ
อย่างไรก็ตามการได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตอยู่ที่ลอนดอนชั่วระยะเวลาหนึ่ง
(ประมาณสามปี) ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
และทำให้ชีวิตของผมกับแฟนได้ประสบพบเจอหลายสิ่งหลายอย่างทั้งดีและไม่ดี
มีความสุขและไม่มีความสุข ถามบางครั้งยังมีเรื่องให้ปวดหัวหรือวิตกกังวลอีกด้วย
แต่ทั้งหมดมันก็ทำให้เราสองคนมีความเข้มแข็งขึ้นเยอะ
และได้เรียนรู้ในการใช้ชีวิตท่ามกลางผู้คนและสิ่งแวดล้อมที่เราไม่คุ้ยเคย
ไม่มีญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงที่สนิทสนมกันคอยช่วยเหลือ มีการปรับตัวเพื่อที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
รวมทั้งการหาความรู้เพื่อทำให้เราไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดี
และการใฝ่รู้ทั้งในเรื่องสิทธิและกฎหมายก็ทำให้เรารอดพ้นจากการหลอกลวงของคนที่ไม่ประสงค์ดีกับเราได้เป็นอย่างดี
และที่ผมสะใจมากก็คือ เราสามารถตอบโต้กับคนเหล่านั้นได้อย่างไม่เกรงกลัวเหมือนกับที่คนรอบตัวเรากลัว
(ซึ่งสุดท้ายเราก็ชนะ และไม่โดนโกงจากคนเหล่านั้น)
มีบางคนเคยบอกว่า การย้ายที่อยู่ไปอยู่ที่ไกลๆจากเดิมเหมือนการเกิดใหม่
ส่วนตัวผมก็มีทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง ในสิ่งที่เห็นด้วย ยกตัวอย่างเช่น
การเปลี่ยนสถานที่จากเดิมมาอยู่ในสถานที่ใหม่ ผู้คนใหม่ๆ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใหม่ๆ
ก็ทำให้เราต้องมีการปรับตัวและเรียนรู้ใหม่
โดยเฉพาะเมื่อเราต้องมาอยู่โดยลำพังก็เหมือนเกิดใหม่เหมือนที่กล่าวไว้
แต่สิ่งที่เห็นต่างคือ ไม่ว่าเราจะเดินทางไปอยู่ไหน
อยู่ไกลขนาดไหนก็ตาม ผมก็คิดว่าเราก็ยังคงไม่ลืมรากเหง้าตัวตนของตนเองหรอก
มันเหมือนตัดขาดเพราะระยะทางไกลและเวลาที่ไม่ตรงกัน
แต่ทดแทนด้วยการมีเทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามาช่วยเติมเต็ม
และถึงแม้ว่าจะมีความไม่สะดวกในการติดต่อกันแต่ก็ยังคงมีความสัมพันธ์ทางใจกันอยู่วันยังค่ำ
ยังไงก็ยังคงมีความคิดถึงกันอยู่เสมอ
ซึ่งผมสังเกตได้จากคนไทยที่มาอยู่ลอนดอนจนได้เป็นพลเมืองของอังกฤษ
(ได้สัญชาติอังกฤษ) หลายคนก็ยังคงกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทยทุกปีหรือเกือบทุกปี
และโดยเฉพาะเหล่าลุงป้าน้าอาผู้สูงวัยทั้งหลาย
ส่วนใหญ่จะบอกกับผมว่าบั้นปลายชีวิตก็อยากกลับไปอยู่หรือไปตายที่เมืองไทยกันซะเป็นส่วนใหญ่
ลอนดอน
เป็นที่ที่ทำให้ความคิดและชีวิตผมเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ได้เรียนรู้ชีวิตหลายอย่างมาก
ชีวิตในลอนดอนเป็นอะไรที่บางครั้งก็เรียบง่าย
มีชีวิตประจำวันที่แทบจะไม่แตกต่างในแต่ละวัน แต่บางครั้งก็เป็นอะไรที่สลับซับซ้อนมาก
เราไม่รู้หรอกว่าวันดีคืนดีจะเกิดอะไรขึ้น
รวมทั้งสังคมและผู้คนในลอนดอนที่มากันจากหลายประเทศทั่วโลก บางคนมาท่องเที่ยว
บางคนมาทำงานหรือเรียน และบางคนก็ตั้งใจมาเริ่มต้นมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นที่นี่
ซึ่งก็ร้อยพ่อพันแม่ มีทั้งคนดีและไม่ดี มีน้ำใจและเห็นแก่ตัว ช่วยเหลือและหลอกลวง
จริงๆแล้วก็พบเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ทุกที่ทั่วโลก แต่เนื่องจากลอนดอนเป็นเมืองใหญ่
จึงมีโอกาสได้พบเจอสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย
ทุกสิ่งมีสองด้านเสมอ ลอนดอนยังคงเป็นเมืองที่มีชีวิต
และเป็นชีวิตที่มีชีวา มีความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ สวยงาม น่าอภิรมย์
แต่ในขณะเดียวกันก็อย่ามองเพียงด้านเดียว เพราะลอนดอนก็มีมุมมืดที่ควรระแวดระวัง
และควรมีสติอยู่เสมอ เพื่อช่วยทำให้ชีวิตที่สวยงามนั้นมีความปลอดภัยได้ในลอนดอน
ลอนดอนสวยงามและน่าค้นหาเสมอครับ
สักครั้งในชีวิตที่เหลือของคุณ ผมแนะนำให้มาใช้ชีวิตในลอนดอนสักหน่อย ลองดูนะครับ
เปิดโลก เก็บประสบการณ์เป็นความทรงจำของเราครับ
อารัมภบท 2
การได้มาพำนักอาศัยในลอนดอน
ประเทศอังกฤษนี้ เป็นการเดินทางออกนอกประเทศไทยครั้งแรกของผม และเป็นการเปิดประสบการณ์ชีวิตอีกครั้งหนึ่งของผมเลยทีเดียว
หากแฟนผมไม่ได้ขอทุนมาเรียนต่อ และหากเจ้าของทุนไม่อนุมัติทุนให้
ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสมาลอนดอนหรือเปล่า
ถ้าโชคดีหน่อยก็อาจจะเก็บเงินมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต
แต่พอแฟนผมได้ทุนมาเรียนก็เป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตในที่ที่ไม่คุ้นเคย
ในที่ที่มีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างจากเมืองไทยที่ผมอยู่มาทั้งชีวิต
บางสิ่งผมก็คิดว่าเมืองไทยยังดีไม่เท่าที่นี่
แต่บางอย่างผมก็คิดว่าประเทศไทยเราดีกว่าเยอะ
อย่างไรก็ตามการได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตอยู่ที่ลอนดอนชั่วระยะเวลาหนึ่ง
(ประมาณสามปี) ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
และทำให้ชีวิตของผมกับแฟนได้ประสบพบเจอหลายสิ่งหลายอย่างทั้งดีและไม่ดี
มีความสุขและไม่มีความสุข ถามบางครั้งยังมีเรื่องให้ปวดหัวหรือวิตกกังวลอีกด้วย
แต่ทั้งหมดมันก็ทำให้เราสองคนมีความเข้มแข็งขึ้นเยอะ
และได้เรียนรู้ในการใช้ชีวิตท่ามกลางผู้คนและสิ่งแวดล้อมที่เราไม่คุ้ยเคย
ไม่มีญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงที่สนิทสนมกันคอยช่วยเหลือ มีการปรับตัวเพื่อที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
รวมทั้งการหาความรู้เพื่อทำให้เราไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดี
และการใฝ่รู้ทั้งในเรื่องสิทธิและกฎหมายก็ทำให้เรารอดพ้นจากการหลอกลวงของคนที่ไม่ประสงค์ดีกับเราได้เป็นอย่างดี
และที่ผมสะใจมากก็คือ เราสามารถตอบโต้กับคนเหล่านั้นได้อย่างไม่เกรงกลัวเหมือนกับที่คนรอบตัวเรากลัว
(ซึ่งสุดท้ายเราก็ชนะ และไม่โดนโกงจากคนเหล่านั้น)
มีบางคนเคยบอกว่า การย้ายที่อยู่ไปอยู่ที่ไกลๆจากเดิมเหมือนการเกิดใหม่
ส่วนตัวผมก็มีทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง ในสิ่งที่เห็นด้วย ยกตัวอย่างเช่น
การเปลี่ยนสถานที่จากเดิมมาอยู่ในสถานที่ใหม่ ผู้คนใหม่ๆ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใหม่ๆ
ก็ทำให้เราต้องมีการปรับตัวและเรียนรู้ใหม่
โดยเฉพาะเมื่อเราต้องมาอยู่โดยลำพังก็เหมือนเกิดใหม่เหมือนที่กล่าวไว้
แต่สิ่งที่เห็นต่างคือ
ไม่ว่าเราจะเดินทางไปอยู่ไหน อยู่ไกลขนาดไหนก็ตาม ผมก็คิดว่าเราก็ยังคงไม่ลืมรากเหง้าตัวตนของตนเองหรอก
มันเหมือนตัดขาดเพราะระยะทางไกลและเวลาที่ไม่ตรงกัน
แต่ทดแทนด้วยการมีเทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามาช่วยเติมเต็ม
และถึงแม้ว่าจะมีความไม่สะดวกในการติดต่อกันแต่ก็ยังคงมีความสัมพันธ์ทางใจกันอยู่วันยังค่ำ
ยังไงก็ยังคงมีความคิดถึงกันอยู่เสมอ
ซึ่งผมสังเกตได้จากคนไทยที่มาอยู่ลอนดอนจนได้เป็นพลเมืองของอังกฤษ
(ได้สัญชาติอังกฤษ) หลายคนก็ยังคงกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทยทุกปีหรือเกือบทุกปี
และโดยเฉพาะเหล่าลุงป้าน้าอาผู้สูงวัยทั้งหลาย
ส่วนใหญ่จะบอกกับผมว่าบั้นปลายชีวิตก็อยากกลับไปอยู่หรือไปตายที่เมืองไทยกันซะเป็นส่วนใหญ่
ลอนดอน
เป็นที่ที่ทำให้ความคิดและชีวิตผมเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ได้เรียนรู้ชีวิตหลายอย่างมาก
ชีวิตในลอนดอนเป็นอะไรที่บางครั้งก็เรียบง่าย
มีชีวิตประจำวันที่แทบจะไม่แตกต่างในแต่ละวัน แต่บางครั้งก็เป็นอะไรที่สลับซับซ้อนมาก
เราไม่รู้หรอกว่าวันดีคืนดีจะเกิดอะไรขึ้น
รวมทั้งสังคมและผู้คนในลอนดอนที่มากันจากหลายประเทศทั่วโลก บางคนมาท่องเที่ยว
บางคนมาทำงานหรือเรียน และบางคนก็ตั้งใจมาเริ่มต้นมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นที่นี่
ซึ่งก็ร้อยพ่อพันแม่ มีทั้งคนดีและไม่ดี มีน้ำใจและเห็นแก่ตัว ช่วยเหลือและหลอกลวง
จริงๆแล้วก็พบเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ทุกที่ทั่วโลก แต่เนื่องจากลอนดอนเป็นเมืองใหญ่
จึงมีโอกาสได้พบเจอสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย
ทุกสิ่งมีสองด้านเสมอ
ลอนดอนยังคงเป็นเมืองที่มีชีวิต และเป็นชีวิตที่มีชีวา มีความสนุกสนาน ตื่นเต้น
เร้าใจ สวยงาม น่าอภิรมย์ แต่ในขณะเดียวกันก็อย่ามองเพียงด้านเดียว
เพราะลอนดอนก็มีมุมมืดที่ควรระแวดระวัง และควรมีสติอยู่เสมอ เพื่อช่วยทำให้ชีวิตที่สวยงามนั้นมีความปลอดภัยได้ในลอนดอน
ลอนดอนสวยงามและน่าค้นหาเสมอครับ สักครั้งในชีวิตที่เหลือของคุณ
ผมแนะนำให้มาใช้ชีวิตในลอนดอนสักหน่อย ลองดูนะครับ เปิดโลก
เก็บประสบการณ์เป็นความทรงจำของเราครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)